ดื่มอย่างไรไม่ให้เมา🍺🍺 เราไม่ได้กำลังแนะนำเทคนิคคอแข็งในวงเหล้า เพียงแต่เรากำลังจะแนะนำให้คุณไม่เมาต่างหาก อาจจะไม่ใช่ไม่เมาเลย แต่ช่วยลดอาการเมาให้เกิดช้าและน้อยที่สุด จนไม่กระทบกระเทือนร่างกายของคุณต่างหาก ซึ่งเราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า เคล็ดลับหรือเทคนิคเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับคุณๆ ในวงเหล้า ให้คุณยังสามารถดื่มสังสรรค์กับเพื่อนฝูงได้จนจบงาน โดยไม่เมาน็อคคอพับไปเสียก่อน ✅พยายามกินของขบเคี้ยวเยอะๆ บรรดาขนมขบเคี้ยวในวงเหล้าทั้งหลาย ตั้งแต่มันฝรั่งทอด หรือถั่วต่างๆ จะเป็นตัวช่วยชั้นดีที่ทำให้ร่างกายของคุณไม่ดูดซึมแอลกอฮอล์เข้าไปมากจนเกินไปนัก เพราะโปรตีนที่มีอยู่ในขนมขบเคี้ยวต่างๆ จะเข้าไปเจือจางฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ให้เบาบางลง ✅ ไม่ดื่มขณะที่ท้องว่าง การกินอาหารเข้าไปก่อนที่จะเริ่มดื่ม ถือเป็นการกระตุ้นการทำงานของน้ำย่อยในกระเพาะอาหารของคุณ และจะช่วยให้คุณไม่มีอาการมึนเมาเร็วเกินไปนัก ที่สำคัญ อาหารที่คุณกินเข้าไปนั้น จะช่วยป้องกันอาการท้องอืดท้องเฟ้อที่อาจจะเกิดขึ้นหลังการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ด้วย ✅ ดื่มน้ำอุ่น การดื่มน้ำอุ่นจะทำให้ร่างกายเจือจางการดูดซึมแอลกอฮอล์ และช่วยลดอาการมึนงงที่เกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย นอกจากนี้การดื่มน้ำอุ่นบ่อยๆ จะเป็นการกระตุ้นให้ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ…

1.ใช้เป็นโลชั่นแต่งผมคืนชีวิตชีวาให้เส้นผมที่ด้านขาดความเงางามได้ด้วยเบียร์เหลือๆ ก่อนเข้าไปอาบน้ำให้ผสมเบียร์ 3 ช้อนโต๊ะในน้ำอุ่น ½ ถ้วย หลังสระผมเสร็จใช้ส่วนผสมนี้หมักผมทิ้งไว้สัก 2 นาทีแล้วล้างออก คุณอาจพอใจมากกับสภาพผมที่เห็นถึงขนาดอยากเตรียมเบียร์เอาไว้ในห้องน้ำทั้งแพ็คก็ได้ 2.หมักเนื้อเหนียวให้นุ่มไม่เห็นต้องใช้ผงหมักเนื้อเลยในเมื่อมีของอื่นที่ใช้แทนได้อยู่ในกระป๋องแล้ว ให้ทายว่าอะไร เบียร์นั่นเอง เบียร์ใช้หมักเนื้อราคาถูกที่ออกจะเหนียวได้เป็นอย่างดี เทเบียร์กระป๋องหนึ่งราดบนเนื้อแช่ทิ้งไว้สัก 1 ชั่วโมงก่อนนำไปปรุง ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นควรแช่ค้างคืนไว้ในตู้เย็นหรือเอาใส่หม้อตุ๋นพร้อมกับเนื้อ 3.ขัดเงาเครื่องทองเช็คเครื่องประดับ ต่างหู และของอื่นที่เป็นทองคำล้วน (คือไม่มีอัญมณีใดประกอบอยู่ด้วย) โดยเทเบียร์เล็กน้อย ( ห้ามใช้เบียร์ดำ) ใส่ผ้าเนื้อนุ่มแล้วเช็คเครื่องทองเบาๆ เสร็จจากนั้นใช้ผ้าหรือผ้าขนหนูอีกเช็คให้แห้ง 4.ผ้าขาวดูขาวจริงผ้าขาวที่หมองดำจะใหม่สะอาดยิ่งขึ้นถ้าแช่ผ้านั้นในน้ำที่ผสมเบียร์เล็กน้อยทิ้งไว้สักครู่จึงซักออก

1 ) Pilsner style beers คำว่า Pilsner เป็นรูปแบบของเบียร์ที่มีลักษณะของรสชาติเฉพาะคือรสชาติอ่อนๆ รสหวานน้อย สีเหลืองอำพัน ดื่มแล้วสดชื่น ปริมาณแอลกอฮอล์จะแตกต่างกันไปตามกฏหมายของประเทศและรัฐนั้นๆส่วนใหญ่ระหว่าง 3.2 -4.5% โดยน้ำหนัก 2 ) Light style beer แตกต่างจาก Pilsner style เนื่องจากมีแอลกอฮอล์ต่ำกว่า มีแคลอรีและคาร์โบไฮเดรตน้อย ดื่มแล้วไม่อ้วน มีอัตราส่วนน้ำหนักมาก เป็นที่นิยมกันมากสำหรับผู้ที่ควบคุมน้ำหนักแต่ราคาสูงกว่าเบียร์อื่น เนื่องจากมีกรรมวิธีผลิตที่ยุ่งยากกว่า 3)Malt…

1. Appearance ดูรูปลักษณ์ของเบียร์ ทั้งสี ความละเอียดของฟอง ตัวบอดี้ 2. Aroma ดมกลิ่น วนแก้วเล็กน้อยแล้วยื่นจมูกเข้าไปในแก้ว ให้ได้กลิ่นของยีสต์ ฮ็อปส์ และมอลต์เต็มที่ 3. Taste จิบรสชาติว่าเป็นอย่างไร เช่น ขม หวาน 4. Mouthfeel รับความรู้สึกในปากว่าบอดี้ของเบียร์ว่าเบาบางหรือแน่น ซ่ามากหรือน้อยแค่ไหน 5. Aftertaste หลังจากกลืนลงไปแล้ว มีรสชาติในปากอย่างไร เบียร์บางชนิดอาจขมแต่ทิ้งรสหวานไว้ที่ปลายลิ้น

"เบียร์มาจากอะไร?" เบียร์เกิดจากส่วนประกอบหลัก 4 อย่าง คือ 1. ยีสต์ (Yeast) - ยีสต์ถูกใช้สำหรับทำให้เกิดแอลกอฮอล์และก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ โดยยีสต์จะบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ "Top Ferment - Ale Yeast" ยีสต์ที่ทำงานที่ผิวหน้าของน้ำเบียร์ และ "Bottom Ferment - Lager Yeast" ยีสต์ที่ทำงานด้านล่างของน้ำเบียร์ 2. มอลต์…

เบียร์ลาเกอร์ คือเบียร์ที่ใช้ยีสต์ที่ทำงานที่ก้นของถังหมัก ส่วนใหญ่ใช้การผสมมอลต์ออกมาเป็นสีบลอนด์ทอง สีใส สดชื่น รสชาติคลีน ดื่มง่าย เบียร์ Pilsner ใช้ยีสต์ที่นอนก้นของถังหมักเช่นกัน มีต้นกำเนิดมาจากเมือง Pilsen ในประเทศสาธารณรัฐเชค ได้รสชาติที่คม คลีน ทานง่าย บอดี้บาง มีความหวานเล็กน้อยของฮ็อปส์และมอลต์ เบียร์เยอรมัน Hefeweizen นับเป็นเบียร์คุณภาพที่ดื่มง่าย มีกลิ่นผลไม้เขตร้อน เช่น กล้วย รสชาติถูกปากคนไทย เป็นแบบเยอรมันแท้ซึ่งผลิตตามกฎบริสุทธิ์ (German Purity Law 1516)…